ปกติเราเป็นคนที่ชอบเปิดเว็บไซด์ของสายการบินเพื่อหาตั๋วถูกอยู่แล้ว
มีอยู่วันหนึ่งเปิดเล่นๆ ไปเจอตั๋วเครื่องบินราคา 100 บาทเข้าให้
ใจสั่น มือลั่นกดจองตั๋วและจ่ายเงินไปซะ 1,854 บาท
แหมแล้วราคานี้ดันมีเฉพาะวันอาทิตย์ที่ 15/11/15 วันเดียวด้วยนะ
เราก็เลยเลือกไปแล้วกลับวันเดียวกันนี่ล่ะ สวยๆ
V Air เป็นสายการบินแบบต้นทุนต่ำ ราคาประหยัด สัญชาติไต้หวัน
เพิ่งเปิดให้บริการเส้นทางกรุงเทพ (ดอนเมือง)-ไต้หวัน เมื่อเดือน 12/14
เอารูปตอนที่บินไปกับ V Air ครั้งแรกเมื่อคริสต์มาสปีที่แล้วมาลงหน่อย
เพราะรอบนี้บินดึกมาก ถ่ายรูปไม่ไหว ^^
เบาะที่นั่งใหญ่ ระยะห่างระหว่างที่นั่งกว้าง เหมาะสำหรับคนตัวสูงใหญ่
ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจใครหลายๆ คน
แต่โดยส่วนตัวเรารู้สึกว่า ที่นั่งของ V Air นั่งไม่ค่อยสบายเท่าไหร่อ่ะ
(ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ)
เมื่อมาถึงสนามบินเถาหยวน เกาะไต้หวันแล้ว
หลายๆ คนต้องพุ่งตรงมาซื้อซิมการ์ด กันก่อน
ข้อดีของการซื้อในสนามบินคือ สื่อสารกันง่าย และสะดวก
หลังผ่านด่าน ตม. และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
1. เลี้ยวขวา มีเคาน์เตอร์ขายซิมครบทุกเจ้า คือ Chunghwa Telecom / Far Eastone และ Taiwan Mobile เปิดบริการ 08.00-22.00 น. (แต่บางเจ้าเปิดประมาณ 07.30 น.)
2. เลี้ยวซ้าย ทางไป Departure Hall (หัวมุมร้าน Sub Way) เป็นออฟฟิศของ Chunghwa Telecom เปิดบริการ 08.00-18.00 น.
3. เลี้ยวซ้ายลงบันไดเลื่อน หน้าร้าน Hi-Life ของ Chunghwa Telecom
เปิดบริการ 06.00-15.00 น. (ข้อมูลเมื่อ 15/11/15)
ถ้าเลี้ยวขวาลงบันไดเลื่อน เจอร้าน Hi-Life เหมือนกัน แต่ไม่มีเคาน์เตอร์ขายซิม ให้เดินทะลุมาตรงฝั่งขายตั๋วรถบัสเข้าเมืองแล้วเลี้ยวซ้าย ก็เจอ
4. ก่อนผ่านด่านตม. เปิดบริการ 11.00 น.
แพคเกจอินเตอร์ 3G /4G ของไต้หวันเป็นแบบ Unlimited จริงๆ
ไม่จำกัดความเร็วและปริมาณการใช้
จำนวนวันเท่ากัน แต่ราคาต่างกัน เพราะจำนวนเงินค่าโทรไม่เหมือนกัน
*ณ ตอนนี้ ไม่มีเคาน์เตอร์ขายซิมที่เปิดบริการเร็วกว่า 06.00 น.
*จะซื้อซิมการ์ดนอกสนามบินก็ได้ แต่จะเสียเวลาดำเนินการนานมาก
(แม้พูดจาภาษาเดียวกันก็ตาม) และบางร้านซิมการ์ดไม่เพียงพอ
จัดการเรื่องซิมการ์ดเรียบร้อยแล้ว มาซื้อตั๋วรถบัสเข้าเมืองตรงนี้ได้เลย
มีรถบัสให้บริการอยู่หลายเจ้า และหลายปลายทางนะ
ไม่ได้มีแต่ Taipei Main Station
http://www.taoyuan-airport.com/english/Buses/
ปลายทางรถบัสจาก Taoyuan Airport
Taipei / Banqiao / Xindian / Taoyuan / Zhongli / Zhongli Transit Station / Taichung /
Zhanghua / Yuanshan Bus Station / St. Ignatius High School
วันนี้แวะไปกินข้าวเช้ากับเพื่อนไต้หวันแถวๆ Jingmei ก่อน
มีรถบัสสาย 1968 Taoyuan Airport-Xindian ผ่านแถวบ้านพอดี
นั่งรถหลับๆ ตื่นๆ ไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึงแล้ว
ลงจากรถบัสก็เห็นร้านอาหารเช้าสไตล์ไต้หวันตั้งอยู่ ท้องเริ่มร้องแล้วสิ
แต่เพื่อนบอกว่า ตลาดเช้าแถวบ้านมีอาหารอร่อยๆ รออยู่ ทนต่อไป
นั่งรถไฟใต้ดินไปอีก 1 สถานี โผล่ขึ้นมาที่ MRT Jingmei พอดี
ปกติตอนมาเที่ยวไต้หวัน ไม่เคยได้เดินตลาดเช้าเลย
เพราะกว่าจะตื่น กว่าจะกินข้าวเสร็จ ตลาดก็วายหมดแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาสัมผัสตลาดเช้าของไต้หวัน
วันอาทิตย์ยามเช้าแบบนี้ ผู้คนออกมาจ่ายตลาดกันเยอะพอสมควร
ของขายส่วนใหญ่ก็คล้ายๆ กับบ้านเรา
เชื่อมั้ยว่า เขียงหมู (ร้านขายเนื้อหมู) ไม่มีแมลงวันตอมสักตัวเลยอ่ะ
ช่วงที่ไปเป็นหน้าของลูกพลับพอดี ขนกลับมาฝากที่บ้านด้วย
แม่ชมใหญ่เลยว่า ลูกพลับไต้หวันหวานและอร่อยมาก
ร้านนี้ไงที่เราจะมาฝากท้องยามเช้า
เพื่อนบอกว่า เป็นร้านเก่าแก่ดั้งดิมของตลาดเช้า Jingmei
แต่อย่าถามทางนะ จำไม่ได้อ่ะ
หิวมากหรือหิวน้อย เพื่อนเอ่ยถามก่อนที่จะลงมือสั่งอาหาร
หิวมากกกกกกกกกกก คือคำตอบสุดท้าย
แป๊บเดียวอาหารก็เรียงรายมาตั้งเต็มโต๊ะ พร้อมบะหมี่อีกคนละชาม
ทั้งหมดนี่แค่ 200NT เอง ถูกเว่อร์ กินตื้อจนถึงตอนเย็นเลย
แวะซื้อเผือกทอดไว้เป็นเสบียงสักหน่อย
ขนาดว่าอิ่มๆ นะ แต่ก็ยังอดห่วงอนาคตไม่ได้ว่าจะไม่มีอะไรกิน ^^
ใกล้ๆ กันมีร้านซุปเปอร์มาร์เก็ดอยู่
ซื้อมาม่าวิทยาศาสตร์ (ของโปรด) ก่อน มีแบบห่อเล็กๆ กินเพลินๆ ด้วย
ขนกลับมาซะ 4-5 ถุงใหญ่
ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงาน แวะมาซื้อกระเป๋า Kanken
และนมสดไข่มุกเจ้าดังที่ Gongguan ขนาดมาตั้งแต่ตอนร้านเปิดนะ
แถวขดแล้วขดอีก คนยืนรอต่อคิวเยอะมาก
เคยกินของเจ้านี้หลายรอบนะ แต่ก็ไม่ถูกใจ รู้สึกว่าหวานเกินไป
ครั้งนี้เพิ่งค้นพบวิธีการกินใหม่ คือ ปล่อยให้น้ำแข็งละลายก่อน
ความหวานของไข่มุกก็จะลดลงเอง (อืม..เพิ่งจะฉลาด ^^)
ครั้งนี้เป็นการมาไต้หวันแบบไม่มีแพลน ไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลย
จริงๆ ไม่อยากจะบอกเลยว่า มาไต้หวันคราใด ก็ไม่เคยได้แพลนหรอก
เรียกว่า ไปตายเอาดาบหน้าแล้วกัน อยากไปไหนก็ไป
ในที่สุด วันนี้ก็ตัดสินใจว่า จะไปเดินเล่นที่
2 ที่นี้มีอะไรน่าสนใจ เดี๋ยวเราคงได้รู้กัน
เราเลือกที่จะนั่งรถไฟจากไทเป (Taipei) ไปลงที่อิงเกอ (Yingge)
หากมีบัตร Easy Card อยู่ เอาไปแปะตรงทางเข้าสถานีรถไฟได้เลย
ไม่ต้องซื้อตั๋วที่ตู้ขายตั๋วหรือที่เคาน์เตอร์นะ
และเป็นเส้นทางระยะสั้น ไม่ต้องซื้อตั๋วล่วงหน้าด้วยจ้า
สำหรับเส้นทางที่จะมุ่งลงทางใต้ทางเกาะไต้หวัน
มารอขึ้นรถไฟที่ชานชาลาที่ 3 ถ้าไม่แน่ใจก็แค่ยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่ดู หรือ
บอกชื่อสถานที่ที่จะไป เดี๋ยวเค้าก็จะชี้เองว่าต้องไปที่ชานชาลาไหน
ชานชาลาที่ 3 จะเห็นป้ายเขียนไว้ คือ Banqiao / Taoyuan / Hsinchu / Neiwan / Miaoli / Taichung / Changhua / Douliu / Chiayi / Tainan / Kaohsiung / Pingtung
แต่เมื่อมาถึงสถานีแล้ว ยังมีเรื่องให้ชวนงงอีกอย่างคือ
ง่ายๆ เลยคือ มาดูป้ายแบบนี้ แล้วเทียบกับเลขขบวนรถไฟเอา
มีบอกชัดเจนว่าเป็น A หรือ B (รูปเก่าเล่าใหม่)
รถไฟจาก Taipei → Yingge มีแทบจะทุกครึ่งชั่วโมงเลย
และใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงเองก็มาถึงแล้ว
เลือกเอาเองว่าจะซ้ายหรือขวา มีป้ายบอกสถานที่เที่ยวไว้แล้ว
ส่วนเราเลือกไปทางขวา เพราะเป้าหมายอยู่ที่ Ceramics Old Street
ที่นี่ถือว่าเป็นเมืองเซรามิคของเกาะไต้หวันเลย
มีร้านค้าเกี่ยวกับพวกสินค้าเซรามิคกว่า 800 ร้าน
สมกับเป็นเมืองเซรามิคมั้ยล่ะ
ตรงสถานีรถไฟก็มีป้ายที่ทำจากเซรามิคชิ้นเล็กๆ มาต่อเป็นรูปสวยๆ
ไม่ต้องกลัวว่าออกจากสถานีรถไฟอิงเกอแล้วจะหลงเลย
เลี้ยวขวาแล้วเดินตามป้ายที่พื้นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึง
เดินจนมาถึงสี่แยกไฟแดง อย่าลืมสังเกตป้ายบอกทาง
ไปถนนสายเซรามิคอิงเกอด้วยนะ
เลี้ยวขวามานิดเดียว แล้วเลี้ยวซ้ายตามป้ายอีกหน่อยนึง ก็ถึงแล้ว
พิกัดนี้เลย :
Ceramics Old Street 鶯歌陶瓷老街
Yingge District, New Taipei City, Taiwan 239
https://goo.gl/maps/aq4ijt3ttYz
กิจกรรมของการมาเที่ยวถนนโบราณอิงเกอคงไม่หนีพ้น
บอกก่อนว่า ทำแล้วไม่ได้ผลงาน Master Piece เลยนะ
ต้องรออีก 2 อาทิตย์ถึงจะกลับมาเอาได้ หรือให้ส่งไปรษณีย์ก็ได้
เราจึงเลือกให้ส่งไปที่บ้านเพื่อนในไต้หวัน
ค่าปั้นบวกค่าส่งไปรษณีย์ทั้งหมด 450NT
เดินมาเรื่อยๆ เจอ Yingge Aesthetics Hall (鶯歌光點美學館)
เพิ่งจะเปิดเมื่อต้นปี 2015 นี้เอง
พิกัดนี้เลย :
No. 18, Taoci St, Yingge District, New Taipei City, Taiwan 239
https://goo.gl/maps/SdXADaF5CjD2
ข้างในเป็นศูนย์รวมร้านค้าต่างๆ ของทางไต้หวัน
โดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับเซรามิคน่ารักๆ ทั้งนั้นเลย
ถ้ามีเวลาเยอะกว่านี้อีกหน่อยคงจะหมดเงินไม่น้อย
ถนนสายนี้เดินเพลินจริงๆ นะ
แนะนำว่าให้มาช่วงเช้าๆ อากาศไม่ร้อนและจะได้มีเวลาเดินเที่ยวเยอะๆ
ศิลปกรรมเล็กๆ น้อยๆ บนพื้นถนน
เพิ่มคะแนนความน่ารักให้กับเกาะไต้หวันได้อีกแล้ว
อย่างที่บอกไปว่า ที่นี่มีร้านค้าเกี่ยวกับสินค้าเซรามิคกว่า 800 ร้าน
ถ้าไม่ห่วงเรื่องน้ำหนักและการขนย้ายลำบาก
คงได้มีซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านบ้างล่ะ ราคาไม่แพง และน่ารักๆ ทั้งนั้น
ในส่วนของถนนโบราณอิงเกอยังมีอีกหลายที่ที่น่าสนใจ เช่น
Yingge Ceramics Museum 鶯歌陶瓷博物館
https://goo.gl/maps/Cng2nh6gC2y
The Shu’s pottery 新旺集瓷
https://goo.gl/maps/p4VpryRbtc72
ถ้าใครมีเวลาเยอะหน่อย อย่าลืมแวะไปเที่ยวกันนะ
แต่เราต้องเร่งทำเวลานิดนึง
ว่าจะไปถนนโบราณซานเสีย (Sanxia Old Street) ต่อด้วย
ทำให้เก็บรายละเอียดได้ไม่เยอะ ตั้งใจว่าจะต้องมีรอบต่อไปแน่นอน
วันนั้นเดินวนหาป้ายรถเมล์เพื่อจะไปถนนโบราณซานเสียอยู่เป็นชั่วโมง
ถามแม่ค้าก็แล้ว เดินเข้าไปถามร้านค้าก็แล้ว
จนในที่สุดไปถามทางกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เค้าก็เขียนแผนที่ขึ้นรถเมล์มาให้
ขนาดพูดจาภาษาเดียวกันนะ
สรุปได้ว่า
วิธีการเดินทางจากถนนโบราณอิงเกอ → ถนนโบราณซานเสีย
ง่ายที่สุดคือ แท็กซี่ นั่งรถประมาณ 10 นาที ค่ารถประมาณ 100NT
แต่แนะนำว่าควรเดินกลับไปขึ้นที่สถานีรถไฟอิงเกอ
ตรงนั้นจะมีแท็กซี่เยอะหน่อย
วันอาทิตย์รถเยอะมากๆ แท็กซี่ส่งเราลงหน้าปากทาง
แล้วให้เดินไปที่ถนนโบราณซานเสียเอาเอง ซึ่งก็ไม่ได้ไกลเท่าไหร่
มองหาทิศที่มีคนเยอะๆ นั่นล่ะ ใช่เลย
เพื่อนกำชับไว้เลยว่า มาถึงที่ถนนโบราณซานเสียแล้ว
ต้องกิน “ขนมเขาควาย” (金牛角) ให้ได้นะ
โห ร้านค้ามีเป็นสิบ เลือกไม่ถูกเลยว่าจะชิมของร้านไหนดี
บางร้านก็คนต่อคิวกันยาวเว่อร์อ่ะ เวลาไม่พอไปต่อแถวกับเค้าด้วย
และจากประสบการณ์ตรง ที่ต่อแถวยาวๆ บางทีมันก็ไม่ได้อร่อยนะ
เราก็เลยเลือกชิมร้านแรกที่เจอ รสชาติก็เหมือนครัวซองปกติทั่วไปนะ
เรามาช่วงเย็นๆ คนเยอะมาก แต่โชคดีที่วันนั้นอากาศเย็นสบาย
เดินชมบ้านเมืองเค้าได้แบบชิลด์ๆ ไม่เหนื่อยไม่ร้อน
อาคารบ้านเรือนเป็นรูปทรงแบบโบราณ
สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปแล้ว เราว่าน่าจะถูกใจเลยล่ะ
ร้านรวงต่างๆ จะขายของแบบโบราณ ของเล่นแบบเก่าๆ หรืออาหารแบบดั้งเดิม
ที่นี่มีร้านอาหารแบบกินเล่นและกินจริงเยอะมาก แวะมาฝากท้องกันได้เลย
เห็นบรรยากาศแบบนี้แล้ว คิดว่าน่าจะถูกจริตกับนักท่องเที่ยวคนไทยแน่นอน
ถ้าเวลาไม่เยอะ หรือไม่อยากนั่งรถขึ้นเขาไปที่จิ่วเฟิ่น (Jiufen)
ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของไต้หวันที่อยากจะแนะนำให้มาเที่ยวกันค่ะ
เวลาน้อยไปนิด ยังไม่ได้ไปวัดที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในไต้หวันเลย
เป็นวัดนิกายเต๋า ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1767 โน้นแน่ะ
Sanxia Qingshui Zushi Temple 三峽清水祖師廟
https://goo.gl/maps/HQ8RZ7tD1cH2
เอาไว้ต้องหาโอกาสมาเก็บข้อมูลบริเวณนี้อีกรอบซะแล้ว
จะมาเที่ยวที่ถนนโบราณซานเสียก่อน แล้วค่อยไปต่อที่ถนนโบราณอิงเกอก็ได้
วิธีการเดินทางมาถนนโบราณซานเสียจากในเมืองไทเป คือ
นั่ง MRT Dingpu ต่อรถเมล์สาย 812 ลงที่ Sanxia Old Street (三峽老街)
หรือ MRT Yongning ต่อรถเมล์สาย 916 ลงที่ Sanxia Old Street (三峽老街)
เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน ได้เวลาที่ต้องกลับสนามบินแล้ว
เราเดินจากถนนโบราณซานเสีย มาขึ้นรถเมล์ที่หน้า En Chu Kong Hospital
เกือบๆ 2 กม. รีบเดินจ้ำอ้าวใหญ่เลย ลืมนึกไปว่า
เราเช็คเวลารถบัสผ่านทาง application ก่อนก็ได้นี่นา
จะได้กะเวลาให้พอดีกัน
รอรถอยู่นานมาก เลยโทรถาม call center ว่ารถเมล์ไปสนามบินรอบต่อไปกี่โมง
ได้ความว่า มีรอบ 17.15 กับ 18.30 แต่นี่มัน 17.25 แล้วอ่ะ
รถเมล์ผ่านไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มายืนรอเกือบชั่วโมงก็ไม่เห็นนี่นา
หรือว่าเราพลาด!
ต้องเรียกแท็กซี่ไปสนามบินมั้ยเนี้ย เริ่มปาดเหงื่อ คำนวณค่าแท็กซี่ในใจเบาๆ
กำลังจะโทรกลับไปเช็คกับ call center อีกรอบ
รถเมล์สาย 1968 ก็วิ่งปราดมาจอดตรงหน้า ไม่รอช้ารีบวิ่งขึ้นไปก่อนเลย
(ไม่ใช่คันที่อยู่ในรูปนี้นะ ตอนนั้นไม่มีเวลาถ่ายรูปแล้ว กลัวตกรถ ^^)
แล้วก็ได้ความรู้ใหม่อีกว่า ไม่ใช่รถเมล์ทุกคันที่จะใช้บัตร easy card จ่ายเงินได้
เอาแล้วสิ เริ่มเหงื่อตกเป็นรอบที่ 2 ไม่ได้เตรียมเศษเหรียญไว้เลย
เพราะรถเมล์ที่ไต้หวันเค้าใช้วิธีการหยอดเหรียญใส่กล่อง ไม่มีทอนเงินจ้า
คุณลุงคนขับบอกให้ไปนั่งที่ก่อน เดี๋ยวค่อยมาจ่ายก็ได้ (ใจดีจัง)
ค่ารถ 75NT ค้นไปค้นมา ก็ยังขาดอีก 3NT มีแต่เหรียญ 3 บาท
จะทำเนียนๆ หยอดแทนกันก็ไม่ได้ เดี๋ยวเค้าเปิดเจอแล้วจะขายหน้าประเทศไทย
จะทำเนียนๆ จ่ายไม่ครบก็ได้ เพราะรู้อยู่แก่ใจ
ในที่สุดก็ต้องยอมควักแบงค์ร้อยจ่ายไปซะดีๆ
ทริปนี้ตะลุยเที่ยวจริงๆ นอกจากข้าวเช้าแล้วก็ยังไม่มีอะไรหนักๆ ตกถึงท้อง
มาถึงสนามบินด้วยความหิวโหย ไปหาของกินที่ Food Court ดีกว่า
ราคาอาหารในนี้ก็ไม่แพงนะ อย่างชุดนี้ 150NT ปริมาณเยอะมาก
อิ่มแล้วก็ไปเช็คอิน รอขึ้นเครื่องกลับบ้าน หมดไปอีก 1 วันชิลด์ๆ ในในไต้หวัน
หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามกันได้ที่แฟนเพจ
https://www.facebook.com/1000MilesJourney
หรือ Line Official : @1000MilesJourney ค่ะ
แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางสะสมไมล์ต่อไปของเรานะคะ
..หนึ่งพันไมล์..
2015.12.12