[China] “เสฉวน” จากที่เจอ (จิ่วจ้ายโกว ปี้เผิงโกว หวงหลง ต๋ากู่การ์เซีย)

March 15, 2025 241 0 0

สรุปทริป “เสฉวน” จากที่เจอ

เราเดินทางวันที่ 1-7/11/24 โดยการเหมารถพร้อมคนขับ ไปทั้งหมด 4 ที่ คือ จิ่วจ้ายโกว ปี้เผิงโกว หวงหลง และต๋ากู่ปิงชวน (ต๋ากู่การ์เซีย) ทริปนี้ไม่ราบรื่นนัก แต่โดยรวมก็โอเคล่ะ

ข้อมูลทั่วไป

1. เที่ยวจีนไม่ต้องขอวีซ่า กรอกใบ arrival card ก่อนผ่านเข้า ตม.

2. เสฉวน (四川) แปลว่าแม่น้ำสี่สาย เป็นมณฑลหนึ่งทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีเมืองหลวงชื่อ เฉิงตู (成都)

3. มณฑลเสฉวนมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของจีน และมีพื้นที่เล็กกว่าประเทศไทย (ประเทศไทย มีพื้นที่ 513,120 ตร.กม. มณฑลเสฉวน มีพื้นที่ 485,000 ตร.กม.)

4. ประเทศจีนเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง ที่จีนใช้เวลาเดียวกันทั่วประเทศ (Beijing Time)

การเดินทาง

5. จากไทยนั่งเครื่องไปเฉิงตู ใช้เวลา 3 ชั่วโมง มีให้เลือกหลากหลายสายการบิน ทั้ง full service และ low cost

จองตั๋วเครื่องบินไปเฉิงตู (Chengdu) >>> https://www.trip.com/t/dYYdZREH2P2

จองโรงแรมที่เฉิงตู >>> https://www.trip.com/t/Ec3cqHIH2P2

6. สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งอยู่ไกลกันมาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-6 ชม. จากเฉิงตู เที่ยวได้แค่วันละ 1 ที่เท่านั้น

7. หากพูดภาษาจีนไม่ได้ แต่อยากเที่ยวเอง ควรมีทักษะการเอาตัวรอด และประสบการณ์การเดินทางประมาณหนึ่ง

8. ถ้าไม่มีทั้ง 3 อย่างข้างต้น ซื้อทัวร์จากไทยไปดีที่สุด แพงกว่าเที่ยวเองแน่นอน แต่มีคนดูแล ไม่ต้องปวดหัวประสานงานเอง

9. ถ้าพูดภาษาจีนไม่ได้ ใช้ google translate ก็พอช่วยได้

10. เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ควรเช่ารถพรัอมคนขับ หรือซื้อ local tour ดีกว่า จะได้ไม่ต้องลากกระเป๋าให้เหนื่อย หรือคอยกังวลกับตารางเวลาของรถบัส รถไฟ และเสียเวลาไปกับการรอรถ

11. เช่ารถ 1 คัน นั่ง 4-5 คนกำลังดี (ไม่รวมคนขับ) นั่งสบาย ๆ (รถขนาด 7 ที่นั่ง)

ยิ่งสูง ยิ่งต้องระวัง

12. สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่มีความสูงตั้งแต่ 2,000 – 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

– จิ่วจ้ายโกว : 3,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

– ปี้เผิงโกว : 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

– หวงหลง : 4,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

– ต๋ากู่ปิงชวน : 2,300 – 4,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

– ซื่อกูเหนียง (สี่ดรุณี) : 3,850 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

13. ควรระวังในเรื่องของอาการแพ้ที่สูง (Acute Mountain Sickness : AMS) อาการแบบน้อย คือ ปวดหัว อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน อาการแบบรุนแรง คือ ตัวบวม ภาวะปอดบวมน้ำ อาจถึงขั้นช็อก หมดสติ และเสียชีวิต

14. หากคนที่กังวลว่าจะมีอาการแพ้ที่สูง อาจจะกินยา Acetazolamide ครั้งละ 125 มก. ทุก 12 ชม. ก่อนขึ้นที่สูง 24 ชม. (ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)

15. ระหว่างเดินทาง ควรพกออกซิเจนกระป๋องติดตัวไว้ด้วย เผื่อมีอาการหน้ามืด หายใจไม่ออก จะได้เอามาสูดได้เลย

16. สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งต้องเดินเยอะ และส่วนใหญ่เดินขึ้น-ลงบันไดหลายขั้น ดังนั้นไม่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่เดินเหินไม่สะดวก หรือต้องนั่งวีลแชร์ หรือมีโรคประจำตัว

อากาศหนาว หิมะตก

17. อย่าลืมตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง หากไปช่วงหน้าหนาว หรือมีหิมะตก ควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปให้พร้อม เน้นแต่งตัวแบบหลาย ๆ เลเยอร์ ดีกว่าจะถมใส่เสื้อตัวหนา ๆ เข้าไปเลย เผื่อนั่งบนรถ หรือเข้าไปในอาคารที่เปิดฮีทเตอร์ จะได้ถอดตัวนอกออก หรือถ้าหนาวก็ใส่เสื้อเพิ่มเข้าไปได้

18. สำหรับการเที่ยวในหน้าหนาว รองเท้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะความเย็นจะขึ้นจากเท้า ดังนั้นควรใส่รองเท้าและถุงเท้าที่เพิ่มความอุ่น รวมถึงดอกยางดี ๆ หรือสายรัดรองเท้า เพื่อป้องกันการลื่น และยึดเกาะกับพื้นที่อาจจะมีหิมะตกทับถม หรือพื้นที่กลายเป็นน้ำแข็ง ที่ทำให้ลื่นล้มได้ง่าย

19. ช่วงหน้าหนาวและมีหิมะ ใส่เสื้อกันลมกันละอองน้ำไว้ชั้นนอกสุดช่วยทำให้อุ่นขึ้นได้ เพราะลมไม่เข้า และป้องกันความชื้นสัมผัสร่างกาย รวมถึงกระเป๋ากันน้ำด้วย ของข้างในจะได้ไม่เปียกชื้น

คนเยอะเป็นปกติ

20. สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง แค่เฉพาะคนจีนก็เที่ยวเยอะแล้ว ยังไม่รวมคนต่างชาติอีก ดังนั้นควรเลี่ยงในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดเทศกาลต่าง ๆ ของจีน

21. หากไปเที่ยวเอง ควรซื้อตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้า เพราะบางที่จำกัดจำนวนคนเข้า

22. การเข้าสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้วิธีสแกนพาสปอร์ต หรือ QR code ถ้าใครใส่ปกพาสปอร์ตเอาไว้ ต้องถอดออกก่อน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับ จนท.และไม่เสียเวลาคนข้างหลัง

23. เมื่อใช้พาสปอร์ตสแกนผ่านประตูเรียบร้อยแล้ว ควรเก็บใส่กระเป๋าไว้เลย อย่าใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ เผื่อเวลาล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบมือถือ หรือหยิบของ พาสปอร์ตอาจจะหล่นหายแบบไม่รู้ตัว

24. บางสถานที่ ตั๋วผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) และตั๋วเด็ก ไม่สามารถสแกนพาสปอร์ตที่ช่องปกติได้ ต้องไปขึ้นตั๋วที่ออฟฟิศด้านข้าง แล้วเอาตั๋วมาสแกนที่ช่องอีกที (เราเจอที่ต๋ากู่ปิงชวน)

อย่าลืมพาสปอร์ต

25. สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ต้องนั่งรถบัสเข้าไปอีกต่อหนึ่ง บางที่ก็ถึงที่เที่ยวเลย บางที่ก็ต้องนั่งรถบัส รถแบตเตอรี่ หรือกระเช้าต่อเข้าไปอีก ควรเผื่อเวลาในการเดินทางด้วย

25.1 จิ่วจ้ายโกว ของเราเที่ยวฝั่งซ้าย นั่งรถบัสขึ้นไปจุดสูงสุดต่อเดียว ประมาณครึ่งชั่วโมง ถึงที่ Long Lake เลยจากนั้นเที่ยวตามจุดเที่ยวต่าง ๆ และนั่งรถบัสลงมาตาม lake ต่าง ๆ

25.2 ปี้เผิงโกว นั่งรถบัสเข้าไป 2 ต่อ ต่อละครึ่งชั่วโมง และนั่งรถแบตเตอรี่ 2 ต่อ (แต่ละต่อมีให้เดินเที่ยวและถ่ายรูปได้) ขากลับนั่งรถแบตเตอรี่ต่อเดียวลงมาถึงจุดขึ้นรถบัส

25.3 ต๋ากู่ปิงชวน นั่งรถบัสขึ้นไปประมาณครึ่งชั่วโมงและนั่งกระเช้าต่อขึ้นไปจนถึงข้างบนออกมาเดินเที่ยวภูเขาหิมะได้เลย

25.4 หวงหลง นั่งกระเช้าขึ้นไป ประมาณ 10 นาที และนั่งรถแบตเตอรี่อีกต่อหนึ่ง พยายามหาซื้อตั๋วรถแบตเตอรี่แบบไป-กลับให้ได้ จำกัด 5,000 ใบต่อวัน ถ้าหาตั๋วรถแบตเตอรี่ไม่ได้ ต้องเดินไกลมากกกกก

เผื่อเวลาเดินทางด้วย

26. ความสวยงามของแต่ละสถานที่ บางทีก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย ช่วงที่เราไป เจอทั้งหิมะตก ใบไม้เปลี่ยนสี และต้นไม้ที่ใบไม้ร่วงโกร๋นจนดูแห้งแล้ง

27. ควรพกเสบียงแบบง่าย ๆ ติดตัวไว้ด้วย เช่น หมั่นโถว ไข่ต้ม และน้ำดื่ม เผื่อไม่มีเวลาแวะกินข้าวที่ศูนย์อาหาร ก็ยังมีเสบียงไว้ประทังหิว

28. การแย่งกันขึ้นรถ แย่งกันถ่ายรูป แย่งกันเที่ยวเป็นเรื่องปกติของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

29. ถ้าเรากำลังถ่ายรูปอยู่ แล้วมีคนจีนเข้ามาในเฟรม จะบอกกับเค้าตรง ๆ ว่า ขอถ่ายรูปแป๊บนึงนะ ส่วนใหญ่ก็เข้าใจนะ

ห้องน้ำในอุทยาน

30. ห้องน้ำในอุทยาน ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั่งยอง และกลิ่นติดทนติดนาน ไม่มีน้ำให้ราด บางที่น้ำล้างมือก็ยังไม่มี ควรใส่ผ้าปิดจมูก และพกแอลกอฮอล์หรือทิชชู่เปียกไปด้วย

31. ห้องน้ำตามจุดพักรถ (ที่เราเข้า) แม้คนจะเยอะ แต่มีหลายห้อง มีให้เลือกทั้งแบบชักโครก และนั่งยอง คนจีนส่วนใหญ่เลือกแบบนั่งยอง

32. คนจีนเวลาเข้าห้องน้ำไม่ค่อยชอบล็อคประตู บางที่กลอนประตูเสีย หรือไม่มีกลอน

33. เวลาเช็กว่ามีคนใช้ห้องน้ำอยู่มั้ย ให้เคาะประตู ถ้ามีคนอยู่ เค้าจะเคาะประตูตอบกลับมา

34. ในอุทยานห้ามสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด บางที่จะมีตะกร้าให้ใส่ไฟแช็คตั้งแต่ก่อนเข้าในอุทยาน แต่ก็ยังได้กลิ่นบุหรี่เป็นระยะ ๆ

การจ่ายเงิน

35. ที่จีนใช้ WeChat (微信 – เวยซิ่น) เป็นหลัก (เหมือน LINE) สั่งอาหารก็สแกน QR Code ผ่าน WeChat เลย verify ข้อมูลส่วนบุคคล และผูกบัตรเครดิต เดดิต หรือทราเวลการ์ดเพื่อจ่ายเงินให้เรียบร้อย สามารถใช้ WeChat Pay สแกนจ่ายเงินได้เลย แต่ต้องมีเน็ตด้วยนะ

36. Alipay (application จ่ายเงินของจีน) ก็ใช้ได้บางที่ควรลงทะเบียน ยืนยันตัวตนและผูกบัตรต่าง ๆ ให้เรียบร้อยก่อนไปจีน

37. ทริปนี้ (จิ่วจ้ายโกว –ต๋ากู่ปิงชวน – ปี้เผิงโกว – หวงหลง) เราเจอร้านค้าที่รับ WeChat Payมากกว่า Alipay

38. บางครั้งสแกนจ่ายเงินไม่ผ่าน ให้ลองเปลี่ยนร้าน หรือลองสแกนซ้ำหลาย ๆ รอบ แต่อย่าลืมดูให้ดี ระวังโดนหักเงินซ้ำ

39. การใช้ Alipay และ WeChat Pay ถ้ายอดจ่ายเกิน 200RMB จะเสียค่าธรรมเนียม 3% ให้แบ่งยอดจ่าย หรือจ่ายแบบอื่นแทน

40. แต่ WeChat Pay มีโปรโมชั่น ฟรีค่าธรรมเนียม 3%เป็นเวลา 7 วันนับจากการใช้ครั้งแรก เมื่อยอดจ่ายเกิน 200RMBและสูงสุดไม่เกิน 1,000 RMB ต่อวัน ถึงวันที่ 31/12/24

บัตรของไทย

41. True Money ก็ใช้สแกนจ่ายได้เหมือนกัน ไม่มีค่าธรรมเนียม แต่เรทแพงกว่า Alipay

42. True Money เป็นการผูกแอปกับ Alipay Plus ถ้าร้านไหนต้องจ่ายผ่าน WeChat Pay เท่านั้น ก็จะใช้ TrueMoneyไม่ได้

43. ทริปนี้ส่วนใหญ่เราใช้บัตร Union Pay ของ Krungthai Travel ซึ่งฟรีค่าธรรมเนียม 3% เมื่อมียอดจ่ายเกิน 200RMB โดยผูกบัตรกับ Alipay และ WeChat Pay แล้วสแกนจ่าย (ไม่รู้ว่าจะฟรีค่าธรรมเนียมตลอดไป หรือมีกำหนดถึงเมื่อไหร่)

44. Union Pay ของ Krungthai Travel เป็นบัตร travel card อย่างหนึ่ง ต้องแลกเงินเข้าบัตรก่อนใช้งาน และแลกได้เฉพาะเงินหยวน (สกุล RMB) เท่านั้น ไม่สามารถแลกเงินประเทศอื่น ๆ ได้

***Union Pay ของทุกธนาคาร ฟรีค่าธรรมเนียม 3% เมื่อมียอดจ่ายเกิน 200RMB

***บัตรเดบิต เครดิต และทราเวลการ์ดของทุกธนาคาร ที่จ่ายผ่าน Alipay หรือ WeChat Pay

ถ้ายอดเกิน 200RMB เสียค่าธรรมเนียม 3%

แต่ถ้าจ่ายโดยการแตะบัตร หรือรูดบัตรที่เครื่อง จะไม่เสียค่าธรรมเนียม

แลกเงินสดเข้าบัญชี

45. การแลกเงินสดเข้า Balance ของ Alipay ต้องให้คนที่มีบัญชีของประเทศจีนโอนเข้าให้เท่านั้น

ส่วนเติมเงินเข้า wallet ของ WeChat Pay สามารถโอนจาก APP ของธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพได้เลย

แต่ทั้ง Alipay และ WeChat Pay ไม่สามารถถอนเงินสดออกมาได้ ดังนั้นควรเติมแค่พอใช้เท่านั้น ทะยอยเติมเรื่อย ๆ ดีกว่าจะใส่เข้าไปก้อนเดียวเลย

46. ในไทยก็มีคนรับแลกเงินสดเข้าบัญชีเหมือนกัน แต่ระวังโดนหลอก ควรแลกกันแบบเจอตัวดีกว่าเพื่อให้ได้รับเงินชัวร์ ๆ หรือแลกกับแหล่งที่เชื่อถือและไว้ใจได้

โรมมิ่งใช้ได้ทุกแอป

47. ใช้ซิมโรมมิ่งจากไทยได้เลย ของเราใช้ Sim2Fly ของ AIS สัญญาณดี เข้าได้ทุกเว็บและทุกแอปเหมือนที่อยู่ไทย แต่อย่าลืมเปิดโรมมิ่งของเบอร์โทรที่ใช้ผูกบัตรต่าง ๆ ไว้ด้วย บางครั้งการจ่ายเงิน ระบบจะให้ส่งรหัส OTP ด้วย

48. Wifi ของจีน จะเข้าได้เฉพาะเว็บและแอปจีน ที่คนไทยนิยมใช้กันเข้าไม่ได้เลย (Facebook ,Youtube , Tiktok)

ก่อนกลับไทย

49. ขากลับ หลังจากเช็คอินและโหลดกระเป๋าที่เคาน์เตอร์แล้ว ให้มาดูจอ SecurityCheckด้วยว่ากระเป๋าเราตรวจผ่านรึเปล่า ขาออกตรวจเข้มกว่าขาเข้า ถ้าไม่ผ่านจะมีชื่อขึ้นบนหน้าจอ จนท.จะให้เข้าไปเปิดกระเป๋าเอาของออก

50. Power bank ขนาด 30,000 mAh ขึ้นไป เอาเข้าประเทศจีนได้ แต่ตอนที่จะเอาออก ต้องให้สายการบินออกใบรับรองด้วย ไม่อย่างนั้นเอาออกประเทศจีนไม่ได้