ทริปนี้เราเดินทางตั้งแต่เดือน 7/2017 แล้วนะ
สำหรับการไปเที่ยวเหอฮวนซานนั้น เราเริ่มต้นด้วยการไปนอนที่ชิงจิ้งฟาร์มก่อน 1 คืน
เคยรีวิวที่พักเอาไว้แล้ว กดดูจากลิงก์นี้ได้เลย
[รีวิวไต้หวัน] ตอนที่ 126 : อยากหยุดเวลาไว้ที่ SunnyDale House @ Cingjing Farm
และจองแพคเกจสำหรับการเที่ยวเหอฮวนซานครึ่งวันจาก KKday ตามลิงก์นี้
Half-Day Tour From Qingjing: Hehuan Mountain
ราคาคนละ NT$700 แต่ต้องจองตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป
โปรแกรมนี้เป็นแบบมารับส่งถึงที่พักเลย
ดังนั้นเวลาจองทัวร์กับทาง KKday ต้องแจ้งที่พักไปด้วย
แล้วเค้าจะนัดกับเราอีกทีว่าตอนเช้าจะมารับตอนกี่โมง
รถบัสที่มารับเราในวันนั้นเป็นขนาด 21 ที่นั่ง
สภาพภายนอกอาจจะดูไม่ใหม่มาก แต่ข้างในก็พอใช้ได้อยู่
ถ้าใครเมารถง่าย แนะนำให้นั่งด้านหน้าๆ หรือเอาหัวพิงเบาะเอาไว้เลยนะ
เนื่องจากจุดหมายคือ เหอฮวนซาน ที่เราจะไปนั้น มีความสูง 3,000 กว่าเมตรจากระดับน้ำทะเล
ซึ่งสูงกว่าดอยอินทนนท์บ้านเราซะอีก (ดอยอินทนนท์สูงประมาณ 2,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล)
ดังนั้นช่วงก่อนที่จะขึ้นเขาจริงๆ เค้าจะจอดรถให้เราไปเดินด้านนอกสักพักหนึ่งก่อน
เพื่อสำรวจว่า มีอาการแพ้ความสูง หรือ High Altitude Sickness รึเปล่า
อาการจะประมาณเวียนหัว อาเจียน หายใจไม่สะดวก
ถ้าใครมีอาการเหล่านี้ คงต้องแสดงความเสียใจด้วย คุณต้องรออยู่ที่นี่ แล้วขากลับเค้าจะมารับอีกที
จากนั้นก็เข้าสู่เส้นทางขึ้นเขาอย่างจริงจังแล้ว
ซึ่งจะคดโค้งไปเรื่อยๆ ตลอดเส้นทาง
ถ้าใครเมารถง่ายอาจจะต้องมองออกนอกหน้าต่างไปไกลๆ จะช่วยบรรเทาอาการได้
วิวข้างทางช่วงเดือน 7 ที่เราไปนั้น เขียวชอุ่มมากๆ ก็เป็นหน้าฝนของทางไต้หวันนี่เนอะ
ปั่นจักรยานขึ้นเหอฮวนซาน
เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คนไต้หวันนิยมทำกันมากๆ
ต้องใช้พละกำลังขนาดไหนเนี้ย
3158 Cafe เค้าถือว่าเป็น คาเฟ่ที่สูงที่สุดในไต้หวันเลย
ก็เล่นตั้งอยู่บนภูเขาอย่างนี้
ตรงจุดนี้ถ้าใครจะแวะลงไปเดินเล่นก็ได้ แต่เราไม่ลง
เพราะต้องการไปให้ถึงจุดที่สูงที่สุดของโปรแกรมนี้ก่อน
ดูความใส่ใจของไต้หวันเค้าสิ
ขนาดอยู่บนเขาแบบนี้ ยังมีเส้นทางสำหรับคนพิการหรือผู้ที่นั่งรถเข็นด้วย
มาถึงจุดที่เค้าปล่อยเราลงเดินแล้ว
ทีแรกก็ทำใจอยู่นานเหมือนกันนะว่าจะเดินขึ้นเขาดีรึเปล่า
เพราะตอนนั้นยังไม่ชอบกิจกรรมอะไรที่ต้องใช้แรงหรือกำลังมากๆ
ไหนๆ ก็มาถึงที่นี่แล้ว เป็นไงเป็นกันเนอะ
เหนื่อยก็แค่นั่งพักเอาแล้วกัน
เส้นทางที่เราเดินนั้นเป็นภูเขาลูกที่เดินง่ายๆ ไม่ลำบากอะไร
เพียงแต่ว่ามันสูง อากาศเบาบาง จึงต้องเดินอย่างช้าๆ ไม่อย่างนั้นมีสิทธิ์วูบได้
หันกล้องไปอีกทาง
ภูเขาลูกนี้สูงกว่าที่เราเดินอีก และใช้เวลานานกว่า
ซึ่งไม่พอกับเวลาที่ทางทัวร์เค้าให้แน่นอน
ถ้าใครนั่งรถบัสมาเอง และชอบเดินเขา อย่าลืมลองกันดูนะ
และภูเขาลูกที่สูงที่สุดคือมีความสูงถึง 3,422 เมตรจากระดับน้ำทะเลเลยทีเดียว
ที่นี่อยู่ในเขตของ 2 เมืองใหญ่ๆ คือ เมืองหนันโถว (Nantou) และเมืองฮัวเหลียน (Hualien)
ถ้าสังเกตดีๆ ที่นี่จะมีทั้งคนแก่และเด็กเล็กมาเดินกันด้วย
หลายคนถามมาว่า
อันนี้ตอบยากจริงๆ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน
และเราไม่มีข้อมูลว่า
พ่อแม่หรือญาติผู้ใหญ่ของคนที่ถามนั้น มีประวัติเกี่ยวกับสุขภาพอย่างไร
โดยปกติออกกำลังกายมากน้อยขนาดไหน และอื่นๆ อีกมากมาย
ถามมาทีไรก็ไม่เคยมีคำตอบให้สักที และไม่กล้ารับประกันด้วยว่า
ดังนั้น แต่ละคนต้องประเมินร่างกายของตัวเองและญาติผู้ใหญ่เอาเองว่า
การไปเที่ยวในที่ต่างๆ นั้น จะมีปัญหาเรื่องสุขภาพในภายหลังรึเปล่า
เราขึ้นมาอยู่บนนี้ได้สักพักก็ได้เวลาเดินกลับแล้ว ยังไปไม่ถึงจุดสูงที่สุดเลย
แต่อย่างว่า มากับทัวร์แบบนี้ก็ต้องทำใจเรื่องเวลาเนอะ
และต้องเข้าใจด้วยว่า เราซื้อทัวร์มาแบบบ “ครึ่งวัน”
ดังนั้นการแวะแต่ละจุดทางทัวร์จะให้เวลาไม่เยอะ ต้องเร่งกันหน่อย
เราเพิ่งเคยขึ้นมาถึง Hehuanshan แค่ 2 ครั้ง
คือ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ วันนั้นขึ้นมาตอนที่บนนี้หิมะตกพอดี
ซึ่งก็สวยแปลกตาไปอีกแบบ แต่เผอิญฟ้ามันไม่ใส ดูขมุกขมัว และหญ้าดูแห้งๆ แล้งๆ
กับครั้งนี้ที่มาตอนเดือนกรกฏาคม เป็นช่วงหน้าฝน
เห็นวิวภูเขาสีเขียวๆ ดูแล้วสดชื่น สบายตาดี
รีวิวอันเก่าที่เรามาช่วงหิมะตก คลิกที่ชื่อตอนได้เลย
เมื่อก่อนเส้นทางนี้จะมีรถบัสประจำทางวิ่งให้บริการระหว่าง
Hualien – Taroko – Hehuanshan – Cingjing Farm ด้วย
แต่เนื่องจากได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 1999
และไต้ฝุ่นหลายต่อหลายครั้ง จึงทำให้ถนนหนทางไม่ดี ต้องซ่อมแซมอยู่เรื่อยๆ
ดังนั้นเส้นทางรถบัสประจำทางต้องยกเลิกให้บริการไป
แต่ตอนนี้มีรถบัสของ OK Bus ที่วิ่งให้บริการในเส้นทางนี้อยู่
ซึ่งต้องจองล่วงหน้า และอาจจะไม่ได้ให้บริการทุกวัน เพราะต้องดูเรื่องสภาพถนนเป็นหลัก
รายละเอียดเพิ่มเติม : OKBus
อีกหนึ่งจุดหมายสำคัญของการขึ้นมาเที่ยวเหอฮวนซานคือ
การถ่ายรูปกับป้าย “Wuling” (武嶺)
เป็นจุดสูงสุดของทางหลวงไต้หวัน มีความสูงถึง 3,275 เมตรจากระดับน้ำทะเลเลยทีเดียว
โดยเริ่มต้นจาก Puli – Ren-ai – Cingjing Farm – Wuling
เส้นทางนี้จะขับรถยาก และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ดังนั้นถ้าใครจะขับรถเที่ยว ต้องเพิ่มความระมัดระวังกันนิดนึงนะคะ
หลังจากจบโปรแกรมเหอฮวนซานครึ่งวันแล้ว
ทางทัวร์เค้าก็จะค่อยๆ ส่งลูกค้ากลับตามจุดต่างๆ ที่ได้ระบุไว้ตอนจอง
อย่างเราให้เค้ามาส่งที่โรงแรมเหมือนเดิม เพื่อเตรียมตัวไปที่สถานี HSR Taichung
และนั่งรถไฟความเร็วสูงกลับไทเปในวันนั้นเลย
หากใครไม่ต้องการซื้อทัวร์ครึ่งวัน หรืออยากมีเวลาอยู่ที่เหอฮวนซันมากกว่านี้
ยังมีรถประจำทางในเส้นทางของ Cingjing Farm – Hehuanshan ที่ให้บริการทุกวันด้วย
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจากที่นี่ได้เลย
[รีวิวไต้หวัน] ตอนที่ 110 : ตัวอย่าง 12 เส้นทางท่องเที่ยวเมืองหนันโถว (Nantou)
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในไต้หวันเพิ่มเติมได้จากลิงก์ข้างล่างนี้ค่ะ
https://www.1000milesjourney.com/all-about-taiwan-by-1000miles/
แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางสะสมไมล์ต่อไปของเรานะคะ
..หนึ่งพันไมล์..
2018.09.19